
รื้อถอนตึกสตง.เน้นเคลียร์พื้นที่ด้านบน หวั่นทรุดตัวกระทบกู้ภัยด้านล่าง
นายกสภาวิศวกร เผย ปฏิบัติการรื้อถอนอาคาร สตง. เน้นเคลียร์พื้นที่ด้านบน หวั่นทรุดตัวกระทบกู้ภัยด้านล่าง เร่งนำรถแบคโฮตัดเหล็ก-ปูน ควบคู่ทีมภาคพื้นดิน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ความคืบหน้าปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยเหตุอาคาร สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม ล่าสุดผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกสภาวิศวกร ได้ออกมาเปิดเผยถึงความท้าทายและแผนการดำเนินงานที่สำคัญ โดยระบุว่า ขณะนี้ภารกิจหลักคือการลดน้ำหนักของเศษซากอาคารที่อยู่ด้านบน หรือบริเวณโซน E เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้านล่าง
ดร.ธเนศ กล่าวว่า ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่า จำเป็นต้องเร่งนำเศษซากอาคารด้านบนลงมาก่อน เนื่องจากมีความสูงและอยู่ไกลเกินกว่าที่เครื่องจักรหนักจะเข้าถึงได้โดยง่าย อีกทั้งยังมีแผ่นคอนกรีตวางซ้อนกันอยู่ประมาณ 5-6 ชั้น ขณะนี้จึงได้มีการนำรถแบคโฮขึ้นไปยังบริเวณด้านบนของซากอาคาร เพื่อเร่งนำชิ้นส่วนเหล่านี้ลงมา
นอกจากการใช้เครื่องจักรหนักแล้ว การปฏิบัติงานยังต้องอาศัยเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินที่ใช้เครื่องตัดขนาดเล็ก เข้าไปตัดเหล็กในบางส่วนที่เครื่องจักรใหญ่ไม่สามารถตัดได้ พร้อมกันนี้จะต้องมีการถ่ายภาพการปฏิบัติงานทุกขั้นตอนอย่างละเอียด และมีทีมวิศวกรควบคุมความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด
นายกสภาวิศวกร เน้นย้ำถึงความเร่งด่วนในการนำแผ่นคอนกรีตขนาดใหญ่ลงมา เนื่องจากฐานด้านล่างของซากอาคารเริ่มมีขนาดเล็กลง ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการสไลด์ตัวลงมาได้ นอกจากนี้สิ่งที่น่ากังวลอีกประการคือสภาพอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีฝนตกลงมาอย่างหนัก อาจส่งผลกระทบต่อการทำงาน ทำให้เศษหิน เศษปูนไหลลงมาตามช่องของซากอาคาร และหากอุ้มน้ำก็จะเกิดการไหลเป็นวงกว้าง ทำให้ควบคุมได้ยาก จึงต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ อย่างไรก็ตาม ฝนที่ตกลงมาเมื่อคืนที่ผ่านมายังไม่ส่งผลกระทบมากนัก เนื่องจากไม่ได้ตกหนัก
อีกหนึ่งอุปสรรคสำคัญในการปฏิบัติงานคือ เส้นเหล็กที่ถูกตัดแล้วมีลักษณะพันกันไปมา ทำให้ต้องใช้เครื่องจักรหนักในการตัดเท่านั้น ไม่สามารถนำเจ้าหน้าที่ที่ใช้แก๊สตัดเข้าไปดำเนินการได้ เนื่องจากอาจใช้เวลานาน และมีความเสี่ยงที่วัสดุบางอย่างจะติดไฟ เป็นอันตรายต่อเจ้าหน้าที่
สำหรับการตัดแผ่นปูนหรือแท่งปูนนั้น มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อลดน้ำหนัก ทำให้รถเครนสามารถยกชิ้นส่วนเหล่านั้นออกมาได้อย่างปลอดภัย ส่วนการใช้เจ้าหน้าที่พร้อมถังแก๊สและลม จะจำกัดเฉพาะการตัดชิ้นส่วนขนาดเล็กที่เครื่องจักรหนักเข้าไม่ถึงเท่านั้น โดยภาพรวมจะเน้นการใช้เครื่องจักรหนักในการตัดเป็นหลัก ซึ่งขณะนี้สามารถลดปริมาณเศษซากบริเวณยอดด้านบนได้ในระดับหนึ่งแล้ว และหากสามารถตัดลดระดับลงมาจนรถแบคโฮสามารถยืดแขนไปได้สุด ก็จะทำให้การทำงานมีความเสถียรมากยิ่งขึ้น
ดร.ธเนศ กล่าวถึงรถแบคโฮ SK1000 คันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ว่าจะเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยให้การปฏิบัติงานเป็นไปอย่างรวดเร็วมากขึ้น ส่วนเครื่องจักรหนักคันอื่นๆ ที่อยู่ด้านล่าง จะมีหน้าที่ในการนำเศษวัสดุที่ถูกตัดลงมา จัดกองให้เป็นระเบียบ เพื่อเปิดทางให้เครื่องจักรทำงานได้อย่างราบรื่น
ในส่วนของความกังวลว่าเครื่องจักรหนักจำนวนมากจะทำให้ดินเกิดการทรุดตัวหรือไม่ นายกสภาวิศวกรยืนยันว่า มีการประเมินความเสี่ยงและวางแผนการวางเครื่องจักรอย่างรอบคอบ โดยมีการใช้เครื่องมือพิเศษเพื่อถ่ายเทและกระจายแรงกดระหว่างเครื่องจักรหนักกับพื้นดิน ทำให้มั่นใจได้ว่าจะไม่เกิดการยุบตัว
ดร.ธเนศ กล่าวเพิ่มเติมว่า โดยความเห็นส่วนตัวแล้ว เครื่องจักรหลักที่มีอยู่ในขณะนี้น่าจะเพียงพอต่อการปฏิบัติงาน แต่หากมีผู้ประสงค์จะสนับสนุนเพิ่มเติม ก็สามารถติดต่อมายังศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ เพื่อให้มีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนกำลังพลได้
สำหรับระยะเวลาในการรื้อถอนนั้น นายกสภาวิศวกร กล่าวว่าเป็นเรื่องที่ยากจะกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจน เนื่องจากต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ที่อาจยังติดอยู่ภายในซากอาคารเป็นสำคัญ อย่างไรก็ตาม ทุกฝ่ายกำลังเร่งปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ โดยเจ้าหน้าที่บางรายทำงานต่อเนื่องมาหลายวัน จนแทบไม่มีเวลาพักผ่อน ซึ่งตนก็อยากให้เจ้าหน้าที่ได้มีโอกาสพักผ่อนบ้าง